โรงเรียนวัดอรุณรัตนคีรี

เลขที่ 3 ถนนเขาวัง–น้ำพุ ตำบล ห้วยไผ่ อำเภอ เมืองราชบุรี จังหวัด ราชบุรี 70000

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

032 370450

น้องเพชร…นกน้อยผู้มากับ Depression

 

น้องเพชร…นกน้อยผู้มากับ Depression

น้องเพชร
น้องเพชร …นกน้อยผู้มากับ Depression ใครจะเชื่อว่าบางทีมนุษย์กับสัตว์ก็มีความแตกต่างกันทางสปีชีส์ชัดเจนตั้งแต่เดิม แต่ในขณะเดียวกัน มันอาจจะมีอะไรที่คล้ายๆ กับคนเราในหลายๆ ด้านเหมือนกัน ไม่ว่ามันจะรู้ด้วยตนเองหรือจะเกิดจากคนปลูกฝังในสิ่งนั้นให้จดจำ ฉันได้มีโอกาสได้เห็นภาพนั่นกับตาว่าสัตว์แม้จะมีขน แต่มันก็มีจิตใจเหมือนกัน เจ็บปวดได้ มีความรู้สึก

ฉันได้มาฟิตเนสแห่งหนึ่งซึ่งเจ้าของฟิตเนสเป็นสัตวแพทย์ แล้วเขาเปิดฟิตเนสเพื่อทำธุรกิจอีกธุรกิจหนึ่งนอกจากการเปิดคลินิกรักษาสัตว์ ฉันได้มาใช้บริการฟิตเนสตามปกติเพราะพอมีคนรู้จักเขาแนะนำให้มา เนื่องด้วยค่าบริการรายวันและรายเดือนราคาถูกมาก น่าจะสบายกระเป๋าเงินพอสมควร ส่วนเรื่องบรรยากาศก็ปกติดี ไม่ได้ต่างจากที่เคยมาสักเท่าไหร่ แต่ฉันกลับรู้สึกประหลาดใจกับนกกระตั้วตัวหนึ่งที่ร้องโวยวายตลอดเวลา
เหมือนจะเป็นประชาสัมพันธ์ของคลินิกและยิมก็ว่าได้ เจ้านกตัวนี้ชอบพูดกับเด็ก เล่นกับเด็ก วันไหนลูกค้าสวยก็จะพูดจาหวานๆ ใส่ลูกค้าตามประสานกช่างจ้อ แต่ในขณะเดียวกันจากโหมดนกที่ช่างจ้อช่างคุยตามหน้าคลินิกและยิมเป็นสีสัน ก็เป็นนกที่ปากคอเราะร้ายจนใครหมั่นไส้ แถมมีโหมดก้าวร้าวจนใครๆ ตกใจ กลัวและไม่ชอบ จนทำให้หลายครั้งทั้งหมอและผู้ช่วยหมอมาจับเข้ากรงเพื่อไม่ให้ลูกค้าได้รับอันตรายก็มี
มันจะร้องโหวกเหวกอะไรนักหนาวะ เสียงดังมายันชั้นสามเลย ลูกค้าบางคนในฟิตเนสเริ่มหงุดหงิดแล้ว

เจ้านกตัวนั้นก็ยังโวยวายไม่เลิก เป็นแบบนี้ทุกวันที่ใครเข้ามา บางทีชอบจิกนั่นจิกนี่ จิกรองเท้าลูกค้า กรี๊ดใส่ลูกค้าจนเขากลัวกันหมด เห็นอะไรนิดหน่อยก็โวยวายเหมือนคนๆ หนึ่งกำลังกรี๊ดเนื่องด้วยมีความผิดปกติบางอย่างที่ไม่สามารถอยู่สงบเหมือนนกปกติได้ จนได้ถามผู้ช่วยหมอว่าทำไมนกตัวนี้เอะอะโวยวายทุกครั้งที่มีคนมาใช้บริการในยิม
“จะมาทีต้องระวังว่านกจะจิกพวกเราไหม”
“กลัวเหมือนกันนะเนี่ย จะมาออกกำลังกายหรือพาหมามาฉีดยา ต้องคิดหนักเลย”

ผู้ช่วยสัตวแพทย์ที่คุ้นเคยกับนกตัวนี้ได้บอกกับฉันว่า…น้องเพชร ซึ่งมันคือชื่อของนกตัวนี้เป็นโรคซึมเศร้า
ตอนแรกฉันก็แปลกใจว่าทำไมนกกระตั้วถึงเป็นโรคซึมเศร้าล่ะ ซึ่งผู้ช่วยสัตวแพทย์ได้เท้าความว่า น้องเพชรเจ้านกกระตั้วตัวนี้เคยมีเจ้าของอยู่ที่ร้านเพชรแห่งหนึ่ง ซึ่งได้รับการเอาใจใส่อย่างดีจนเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิต แต่วันหนึ่ง เจ้านกตัวนี้ถูกทิ้งโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยเอาน้องไปทิ้งไว้กับหลวงตาที่วัดป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งหลวงตาได้รับเลี้ยงไว้ตามมีตามเกิดเนื่องจากขาดความรู้เรื่องเลี้ยงนกด้วยแหล่ะ เลยทำได้แต่เอาของที่พอให้นกกินได้เท่านั้นจริงๆ แต่สิ่งที่แสดงอาการของซึมเศร้าอย่างชัดเจนนั่นก็คือ นอกจากจะโวยวายส่งเสียงดัง เขาจะมีอาการดึงขน ซึ่งจะเอาจะงอยปากดึงขนตามตัวเองออกมาจนกระทั่งเหลือแต่หนังติดขนเล็กน้อยเท่านั้น มันก็คืออาการเดียวกับอาการดึงผมในคนนี่แหล่ะ กว่าหมอจะพามารักษาจนหลวงตายกให้ น้องเพชรก็ไม่ต่างจากสภาพไก่โดนถอนขนเลย ต้องดูแลพอสมควรกว่าขนจะงอกกลับมาใหม่ได้เหมือนเดิม เหมือนอยู่ที่นี่ขนปีกเริ่มยาวขึ้น แต่ยังไม่ยาวพอที่จะสามารถบินได้เหมือนนกปกติ ก็ต้องใช้เวลามากพอสมควรในการฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ให่สามารถกลับมาเป็นนกปกติตามสัญชาตญาณของมัน

ฉันได้ฟังก็อดสงสารน้องเพชรไม่ได้เหมือนกัน คงคล้ายๆ กับคนนี่แหล่ะที่มีอะไรห้อมล้อม มีคนรักคอยเอาใจ แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน เหมือนทุกอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปโดยปริยาย ด้วยความที่เพชรเป็นแค่นก ไม่ได้มีความคิดเหมือนมนุษย์ที่มากพอจะรับมือการเปลี่ยนแปลงได้ ขนาดคนยังซึมไปหลายตลบเลย แล้วนับประสาอะไรกับนกล่ะ จริงไหม? แต่การที่นกได้มาอยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็ยังปลอดภัยเมื่อถึงมือหมอ และไม่มีอาการแทรกซ้อนจากโรคที่บ่งบอกความเจ็บป่วยหรือความผิดปกติด้านอื่นๆ เข้ามาด้วย

แต่สิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องอารมณ์นี่แหล่ะ น้องเพชรจะงอยปากเขาน่ากลัว สามารถจิกเท้าลูกค้าที่ใส่รองเท้าคอมแบทถึงกระดูกได้ แล้วเราเดายาก คุมไม่ได้เลยว่าน้องจะอารมณ์ดีหรือร้ายกันแน่ ขึ้นชื่อว่าสัตว์ก็อย่าได้วางใจ ด้วยความที่น้องเพชรเป็นนกที่มีอายุขัยเท่าคน น้องจึงเป็นนกที่ยังเด็กมาก เรียกได้ว่าเริ่มเป็นนกเด็กที่เพิ่งเข้าสู่วัยรุ่น สภาพจิตใจค่อนข้างเปราะบาง และอ่อนแอมากๆ ถ้ามีเรื่องอะไรที่รุนแรงทางจิตใจ เหตุการณ์นั้นสามารถพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เช่นช่วงที่เขาถูกทิ้งอาจจะเป็นช่วงที่มีความสุขมากและเป็นช่วงที่ฟ้าถล่มลงตรงหน้า วันที่สดใสกลายเป็นวันที่ฟ้าหม่นทันใด ผลพวงจากสิ่งเหล่านั้นทำให้น้องเพชรกลายเป็นนกอารมณ์แปรปรวนเนื่องจากความปวดร้าวทางจิตใจ จะว่าไปเหมือนได้เข้าใจจิตวิทยาของคนด้วยกันเลยเนอะ ถ้าวันหนึ่งเราเจอเรื่องที่รุนแรงจนเปลี่ยนตัวเราจากที่ดีไปที่ร้ายได้ เรื่องนั้นต้องร้ายแรงมากพอสมควรเลยล่ะ ถึงทำให้คนจมปลักกับอดีตที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ นั่นก็เป็นสิ่งที่ให้แง่คิดที่ดีเลยล่ะว่าถ้าจะเอาอะไรมาเลี้ยง ต้องถามตัวเองว่าเลี้ยงไปชั่วชีวิตของเขาได้ไหม ถ้าเลี้ยงเขาไปชั่วชีวิตไม่ได้ อย่าเลี้ยงเลย เราจะได้ไม่ทำร้ายใครด้วยความเลือดเย็นจากการทอดทิ้ง และเขาจะได้ไม่ตกนรกในใจเหมือนน้องเพชรก็ได้

การเลี้ยงสัตว์มันไม่ใช่แค่เลี้ยงตัว ให้อาหารทุกมื้ออย่างเดียว แต่การเลี้ยงใจก็สำคัญไม่น้อยเหมือนกัน เพราะถ้าเราให้ความรักเอาใจใส่เหมือนคนในครอบครัว สร้างจิตสำนึกของความเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง และรู้จักรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ เราอาจจะลดปัญหาสัตว์จรจัดในทางกลับกันก็ยังได้ และเราจะได้ไม่เป็นกลไกในการสร้างภาระให้ผู้อื่น หรือเอะอะก็ลงเอยกันที่วัดเวลาเราจะทิ้งใคร บางทีต้องมีหัวคิดนิดนึง จะเลี้ยงอะไรอย่ามองที่แฟชั่น หรือความน่ารัก ถ้าไม่พร้อม ไม่จริงจังตั้งแต่แรก อย่าเลี้ยงเขาเลย เพราะถ้าถึงจุดอิ่มตัว จะไม่ต่างจากสัญญาไม่เป็นสัญญาที่คุณมีให้กับสัตว์เลี้ยงเลย