โรงเรียนวัดอรุณรัตนคีรี

เลขที่ 3 ถนนเขาวัง–น้ำพุ ตำบล ห้วยไผ่ อำเภอ เมืองราชบุรี จังหวัด ราชบุรี 70000

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

032 370450

ความเชื่อ และความศรัทธาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ความเชื่อ และความศรัทธา แท้จริงแล้วคือเนื้อในหรือเปลือก พระเอกของเรื่องผู้ที่ไม่เชื่อและศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายรวมถึงพระเจ้าด้วยแต่ว่าเขาก็มีอาชีพเปิดร้านขายเทวรูปและเครื่องรางของขลังรวมถึงน้ำมนต์ที่กรอกจะบล็อกเองกับมือเขามีลูกจ้างที่เป็นเพื่อนบ้านชื่อว่ามหาเทพชื่อคนเท่เวลาที่เทวรูปที่ร้านใกล้หมดขายเนี่ย kanji

ความเชื่อ

ก็จะไปวัดกับคนในครอบครัวไม่ได้ไปเพราะศรัทธานะครับได้ไปหาซื้อเทวรูปมาขายต่อที่ร้านตัวเองการที่มีเมียชื่อว่าสุชิราครับชื่อเหมือนคนไทยเลยเป็นคนทั้งครอบครัวรวมถึงพี่ชายของเขาก็เป็นคนเคร่งศาสนามากและเมื่อคืนการตีกับแอ๊ดเอาเหล้าให้พี่ชายกินทำให้พี่กับเขาเนี่ยต้องอดอาหารอธิษฐาน

เพื่อไถ่บาปต่อพระเจ้าซึ่งเมียของเขาก็ได้ต่อว่าเขาแล้วก็ได้จุดธูปก็ใส่บาตรให้กันทีแต่การตีก็ไม่ได้เชื่อในสิ่งที่เมียทำเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เคยเจอและการตีเขาก็มีสกิลการขายของที่เรียกว่าขั้นเทพเลยนะครับจากเทวรูปราคาถูก

ที่ซื้อมาจากวัดเขาสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้มันได้ถึง 10 เท่าจากการสร้างเรื่องราวให้เทวรูปมันหายากมีแล้วโชคดีค้าขายร่ำรวยจนคนที่สนใจเนี่ยยอมทองคำอันแรกหมดตัวกำไรล้วนๆทั้งที่เขาก็ยังมีอีกเป็น 10 ตัวและในขณะเดียวกันที่พี่ก็ออกหาว่าในเมือง

กำลังมีงานเทศกาลพิธีกรรมทางศาสนาอยู่ซึ่งลูกและเมียผมเขาก็ได้ไปร่วมงานด้วยทำให้เขาไม่พอใจที่เมียพาลูกที่ต้องอ่านหนังสือสอบไปด้วยเขากับลูกจ้างที่ชื่อหมาเพศเมียก็เลยรีบขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่นั่นแล้วพอมาถึงการทีก็ไม่พอใจเมียอย่างมากครับ

ที่พาลูกมาสถานที่แบบนี้เขาจะขึ้นเวทีขวาใหม่บอกกูคนในงานว่าพระกฤษณะพระผู้สร้างเนี่ยต้องการดื่มนมและเนยภายใน 1 ชั่วโมงทำให้คนในงานเนี่ยรีบกลับไปหาซื้อของมาถวายหมดแล้วนี่มันก็ทำให้ผู้นำศาสนาในไม่พอใจครับผมขอเรียกว่านักมวยเหมือนกันนะ

บังอาจทำงานร่มกลับมาที่บ้านรู้สึกว่าเมื่อสักครู่จะมีแผ่นดินไหวเล็กน้อยเลยครับทำให้มีอาการจี๊ดคิดว่าพระเจ้าจะต้องลงโทษในแน่ๆที่การชี้ไปทำร้ายงานเทศกาลและการชี้ก็บอกว่าเอาไว้แค่นิดเดียวเองอย่าไปคิดเยอะและทีวีก็ได้ออกข่าวว่ากูคนแนเอานมกับเลยเนี่ยไปถวายพระกฤษณะกันใหญ่เลยเชื่อดิ kanji

พูดซะงั้นซึ่งนักข่าวได้บอกอีกว่าแผ่นดินไหวเล็กน้อยเมื่อกี้เนี่ยถ้าไม่ล้านหนึ่งในมุมไบถล่มเพียงหลังเดียวเท่านั้นและนั่นมันก็คือร้านของ kanji นั้นเองครับทำให้ขาดชี้กับถึงกับช็อกพูดไม่ออกการตีกับครอบครัวก็มาที่ร้านของเขาครับเมียของเขาแล้ว

ก็กังวลอย่างมากเพราะเพิ่งกู้เงินมาทำร้านร้านกับพังซะแล้วแถมเงินใช้จ่ายในก็เหลือเพียงเล็กน้อย วันต่อมาการชี้เข้ามาที่บริษัทประกันครับเพื่อหวังให้บริษัทประกันจ่ายค่าชดเชยค่าเสียหายที่ร้านพัดลมให้บริษัทประกันจะกลับบอกว่าในกรณีภัยธรรมชาติ

ที่เกิดจากพระเจ้าเนี่ยผมมาทันไม่ได้คุ้มครองประกันที่จ่ายให้ไม่ได้จึงเกิดการทะเลาะกันประกันได้ก็บอกกันทีว่าอยากได้อะไรก็ให้เป็นของข้าพเจ้าเอาโครงการตีกลับมาบ้านครับเขาก็คิดมากคิดมากก็ใกล้จะหมดหัวแล้วที่ดินของร้านไหนก็ขายไม่ได้ไปที่ทำเลไม่ดีราคาตกหายไปก็ขาดทุนเพราะมีสร้างเทวรูปเนี่ยอยู่ในร้านจูนน่ะเขาก็คิดอะไรบางอย่างได้

เพราะในบ้านก็นึกว่าจะกระโดดตึกแต่เขาบอกว่าเขาก็จะฟ้องร้องต่อพระเจ้าเลยเขาน่าจะยิงหนังสติ๊กไปโดนระฆังศาลเจ้าหน้าบ้านครับหวานต่อมาการตีกับมหาเทพแล้วก็พากันไปตามหาทนายครับทนายเนี่ยโคตรเยอะ

แต่เมื่อเขานะบอกกับเราทนายว่าจะฟ้องร้องของพระเจ้าก็ไม่มีคนรับเลยครับพักวิ่งหนีหมดคิดว่าเขาจะเป็นคนบ้าจนเขาตัดสินใจมาหาทนายคนอื่นที่คิดว่าน่าจะช่วยได้ทนายคนนี้ไงก็เป็นคนมุสลิมนะครับเห็นแกก็มีปัญหาที่ขาเดินไม่ได้แต่เมื่อเขารู้ว่าการที่จะฟ้องร้องต่อพระเจ้าเนี่ยเขาก็บอกว่าจะช่วยแต่จะฟ้องร้องได้ไง

ก็ต้องมีที่อยู่ของพระเจ้าไม่งั้นฟ้าน่าจะไม่รับมันก็บอกว่าไม่มีแต่เขาก็มีที่อยู่ที่คนไปสักการะพระองค์ได้และนั่นแหละครับกันจริงๆก็ส่งไปฟ้องร้องไปยังผู้นำศาสนาลัทธินิกายต่างๆทำให้เรื่องนี้ถึงหูผู้คนโดยไวแล้วทุกคนก็ออกมาประท้วงสาปแช่งเขาจน

ผู้นำสูงสุดของเหล่าศาสนาเนี่ยก็รับรู้ครับผมขอเรียกว่านักบวชขาวนะเขาก็ เป็นคนที่คนเคารพบูชามากแม้แต่รอยตีนเหยียบบนผ้าในก็เป็นเงินเขาก็จะออกมาตอบโต้เรื่องที่การทีเดียวพร้อมกับพระเจ้าวันต่อมาการตีก็เดินทางมาที่ศาลครับรอพรุ่งนี้ก็ออกมาชูป้ายสาปแช่งเขาไม่เข้าไปข้างในก็ได้เจอกับบริษัทประกัน

และเหล่าผู้นำศาสนาลัทธิต่างๆหรือกางเกงก็ต้องว่าความเองนะครับเพราะเขาไม่มีทนายและทนายความประกันก็บอกศาลว่าคดีนี้ไม่มีความเป็นจริงในฐานะยกฟ้องคดีจึงบอกศาลว่า ขึ้นต่อว่าเขาฝ่ายประกันก็มีสัญญามาแสดงต่อศาลนะครับ

การที่จะบอกว่างั้นแหละพระเจ้าแล้วก็ต้องจ่ายเขาแล้วบอกให้นะกลัวเหลือเนี่ยติดต่อกับพระเจ้าให้หรือไปกระจายให้เขาแทนคือเขาก็ได้พูดเรื่องจริงต่อศาลว่าสถานที่เกี่ยวกับศาสนาเกือบทุกที่มักจะมีธุรกิจแฟ้มอยู่เสมอและมันก็ทำเงินมหาศาลกากีก็ได้พูดอีกว่าเขาจะจ่ายประกันภัย

ได้รับการคุ้มครองเหมือนกับการทำบุญให้โชคดีและปลอดภัยถึงเขาก็มีหลักฐานการทำบุญของเขาว่าบริจาคอะไรไปบ้างเท่าไหร่เพราะฉะนั้นมันก็เหมือนกับเขาเนี่ยทำประกันกับพระเจ้าและเมื่อเกิดเหตุจากพระเจ้าพระเจ้าก็ต้องชดใช้ซึ่งพอผู้พิพากษาได้ฟังอย่างนี้ก็รับคำร้องของเขาและดูอีกทีว่าวัดหรือบริษัทประกันเนี่ยต้องจ่ายค่าชดเชยให้เขา

เมื่อกลับมาบ้านตัวเขานั้นก็ได้นั่งลงคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆแย่ๆที่ได้เกิดขึ้น แต่อย่างไรเสียตัวเขานั้นก็รู้สึกภาคภูมิใจทุกครั้งที่คิดถึงสิ่งที่เขาทำวันนี้

บทความเพิ่มเติม> นักเรียน ชั้นนำสามารถไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา